วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2560

ผลเทรดสัปดาห์ที่ 11-12 /2560

เนื่องจากสัปดาห์ที่ 10 มีผลเทรดขาดทุนแบบเละเป็นโจ๊ก
ในสัปดาห์ที่ 11 จึงหยุดเทรดเกือบทั้งหมดเหลือแค่ 1 พอร์ตคือ EN11 เพื่อมีเวลาทบทวนปรับปรุงระบบฯ




  • และในสัปดาห์ที่ 12 ก็เริ่มรันอีเอใหม่แบบ Long only และ Short Only แยกพอร์ตกัน
  • ผลเทรดออกมาแบบต่ำกว่าเป้าหมาย เป็นเพราะไม่กล้าเสี่ยงมาก มีความกลัวเกิดขึ้น
  • ประสบการณ์และสิ่งที่ได้เรียนรู้ในสองสัปดาห์นี้ได้แก่
    • วิธีแยกรันอีเอแบบ Long only และ Short only เป็นคนละพอร์ตสามารถลดความรุนแรงของการขาดทุนได้จริง แต่ก็มีผลทำให้ได้กำไรลดลงตามไปด้วย
    • การรันอีเอ TFC_Robo_2057 ให้พอร์ตอยู่รอดมีหลายวิธี
แบบที่ 1 : รันตาม Default ไม่ต้องเข้าแทรงแซง
    แบบนี้ไม่ต้องเสียเวลาแก้ไขพอร์ต แต่อาจต้องใช้เงินทุนมากเพื่อรักษาพอร์ตให้อยู่รอด เพราะถ้าราคาโดนลากยาว ๆ สัก 500 Pips ก็อาจจะเสี่ยงต่อการล้างพอร์ตได้ง่าย ๆ

แบบที่ 2 :  ตั้งค่า Max.Order = 25
    คล้ายรันแบบ Default แต่ใช้เงินทุนน้อยกว่า

แบบที่ 3 : ตั้งค่า Max.Order เป็นขั้น ๆ จาก 10 แล้วเพิ่มเป็น 11, 12, 13,..., 25
    แบบนี้สามารถอยู่รอดต่อการลากยาว ๆ ได้ดีขึ้นแต่ก็อาจเสียโอกาสในการแตะจุด Tp เพราะไม่ได้เปิดออร์เดอร์ Lot size ใหญ่ ๆ ก่อนการกลับตัว ซึ่งก็อาจชดเชยกำไรที่ควรจะได้โดยการทยอยเก็บกำไรเอง โดยปิดบางออร์เดอร์เฉพาะออร์เดอร์ที่มีกำไร

แบบที่ 4 : เปิดรันอีเอเพิ่มอีกกราฟใน ทิศทางเดียวกัน
    หลังจากที่กราฟแรก Drawdown ไปเกินกว่า 10 ไม้แล้ว

แบบที่ 5 : เปิดรันอีเอเพิ่มอีกกราฟใน ทิศทางตรงกันข้ามกับกราฟแรก
    หลังจากที่กราฟแรกเกิด Drawdown ไปเกินกว่า 10 ไม้แล้ว แบบนี้มีข้อควรระวังคือ อาจจะเกิด Drawdown เพิ่มในกราฟที่สองก็เป็นได้หากกราฟราคามันกลับตัว

แบบที่ 6 : แบบ Mix Hedge
    มีตัวอย่างดังนี้คือ
    - เปิดรัน TFC ตามปกติ Long Only ตั้ง Max.order = 10 (Lot สะสม = 1.5 , DD = 63 pips)
    - เปิด Pending order : Sell เพื่อ Hedge ไว้ที่ราคา DD = 63 pips ขนาดเป็น 2 เท่าคือ 1.5 x 2 = 3.0 Lot
    - ตั้ง Tp ของ Hedge นั้นไว้ที่ 63 pips

1 ความคิดเห็น:

  1. เปิดรันอีเออยู่
    ต้องถามตัวเองว่า
    ถ้าราคาวิ่งขึ้นยาว ๆ แล้วจะเกิดผลกระทบกับพอร์ตนั้นยังไง
    ถ้าราคาวิ่งลงยาว ๆ แล้วจะเกิดผลกระทบกับพอร์ตนั้นยังไง

    ตอบลบ